top of page

บุรีรัมย์- กรมศิลปากรส่งมอบ “ทับหลังปราสาทหนองหงส์” กลับบ้าน ตั้งจัดแสดงที่อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาท

Writer's picture: Triphop PhonkaTriphop Phonka


วันนี้ ( 30 มิ.ย.) ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้ทำการเคลื่อนย้ายทับหลังปราสาทหนองหงส์ของจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มาส่งมอบให้กับอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อทำการเก็บรักษาและจัดแสดงให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ชมและศึกษาเรียนรู้ประวัติความเป็นมา โดยจะมีการเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่ศูนย์บริการข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมและศึกษาได้อย่างสะดวกซึ่งสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ในเวลาราชการ

นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา กล่าวว่า ทับหลังปราสาทหนองหงส์ดังกล่าว ได้สูญหายไปจากที่ตั้ง ช่วง พ.ศ. 2509 - 2511 แต่ไม่ปรากฏรายงานหรือบันทึกเกี่ยวกับการสูญหาย ต่อมาได้ปรากฏทับหลังรายการนี้อยู่ในฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ของพิพิธภัณฑ์เอเชียนอาร์ต มิวเซียม เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นโบราณวัตถุ ทับหลังแกะสลักเป็นรูปพระยมทรงกระบือประทับอยู่ภายในซุ้มเหนือหน้ากาล การได้ทับหลังดังกล่าวกลับคืนสู่ประเทศไทย เกิดจากความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน นักวิชาการ หน่วยงานของรัฐ ทั้งในและต่างประเทศ และเป็นผลมาจากสัมพันธไมตรีอันดีงามของ ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา แต่การติดตามทวงคืนก็ต้องใช้เวลาและงบประมาณในการดำเนินการไม่น้อย ดังนั้นทุกคนควรร่วมกันอนุรักษ์หวงแหน ไม่ให้โบราณวัตถุของไทยถูกลักลอบนำออกไปยังต่างประเทศอีก

การนำทับหลังปราสาทหนองหงส์ มาเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่ศูนย์บริการข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เพราะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมและมีความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอดีต ทั้งเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวปราสาทพนมรุ้ง ได้เข้ามาชมและศึกษาประวัติความเป็นมาได้อย่างสะดวกมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้รับมอบมาจัดแสดงไว้ที่ปราสาทพนมรุ้ง ก็จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ได้ชมและเรียนรู้เรื่องราวที่มารวมถึงความยากลำบากและความร่วมมือทั้งของภาครัฐ ภาคประชาชนในการทวงคืน ส่วนที่จะนำทับหลังดังกล่าวไปไว้บริเวณที่ตั้งปราสาทหนองหงส์หรือไม่นั้น ก็ได้มีการหารือร่วมกับหลายฝ่ายแล้วว่าการเก็บรักษาไว้ที่ปราสาทพนมรุ้งมีความเหมาะสมและปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากที่ตั้งปราสาทหนองหงส์ เป็นสถานที่เปิดอาจจะไม่ปลอดภัยในการเก็บรักษา แต่อาจจะมีการทำในรูปแบบจำลองซึ่งก็ต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง

นายศักดิ์กรินทร์คูณประโคน นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บอกว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ทางกรมศิลปากรได้ส่งมอบทับหลังปราสาทหนองหงส์ ซึ่งถือเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่ากลับคืนสู่มาตุภูมิ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ได้เดินทางมาชมและศึกษาถึงประวัติความเป็นมา รวมถึงการร่วมแรงร่วมใจจากหลายฝ่ายในการทวงคืนจนเป็นผลสำเร็จ ทั้งเชื่อว่าในอนาคตก็จะส่งผลดีกับการท่องเที่ยวด้วย

ก่อนหน้านี้ นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ได้รายงานความคืบหน้ากรณีทับหลังจาก #ปราสาทหนองหงส์ จ.#บุรีรัมย์ และทับหลังจาก #ปราสาทเขาโล้น จ.#สระแก้ว ที่ได้รับคืนมาจากสหรัฐอเมริกาครบ 1 ปีแล้ว ปัจจุบันได้จัดแสดงเป็นการชั่วคราว ณ #พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (พช.) พระนคร และจะสิ้นสุดการจัดแสดงในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ หลังจากนี้ กรมศิลปากรจะเคลื่อนย้ายทับหลังทั้ง 2 รายการ ไปเก็บรักษา และจัดแสดงในจังหวัดที่เป็นต้นทาง โดยทับหลังของปราสาทหนองหงส์ จะเก็บรักษาที่ศูนย์บริการข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น เก็บรักษาที่ศูนย์บริการข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว ซึ่งกรมศิลปากรคำนึงถึงความปลอดภัย และการดูแลรักษาโบราณวัตถุให้มั่นคงแข็งแรง เนื่องจากหน่วยงานทั้ง 2 แห่ง มีความพร้อมจัดแสดงโบราณวัตถุ และมีการควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

“การนำทับหลังทั้ง 2 รายการ ไปจัดแสดงในพื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์ ที่อยู่ในเส้นทางการท่องเที่ยวหลัก จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าชม เดินทางไปเยี่ยมชม #ปราสาทหนองหงส์ และ #ปราสาทเขาโล้น มากยิ่งขึ้น รวมถึง ประชาชนในพื้นที่สามารถเดินทางมาชื่นชม และศึกษามรดกทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นของตนได้โดยสะดวก ทั้งนี้ กรมศิลปากรจะมอบหมายให้ พช.พิมาย จ.นครราชสีมา และ พช.ปราจีนบุรี ควบคุมดูแล และจัดทำทะเบียนโบราณวัตถุตามระเบียบของกรมศิลปากรต่อไป” นายกิตติพันธ์ กล่าว





7 views0 comments

Comments


bottom of page